ในโลกของการทำงาน ค่าเบี้ยเลี้ยงถือเป็นหนึ่งในสิทธิประโยชน์ที่สำคัญสำหรับพนักงาน โดยเฉพาะพนักงานที่ต้องปฏิบัติงานนอกสถานที่หรือเดินทางไกล การเข้าใจถึงประเภทและเกณฑ์การคำนวณค่าเบี้ยเลี้ยงจะช่วยให้องค์กรสามารถจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพนักงานก็ได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่ควรจะได้รับ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับค่าเบี้ยเลี้ยงในมุมมองที่ครบถ้วนและทันสมัย รวมถึงแนะนำระบบ HRM ที่ช่วยในการบริหารจัดการค่าเบี้ยเลี้ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ค่าเบี้ยเลี้ยงคืออะไร?
ค่าเบี้ยเลี้ยงคือเงินที่องค์กรจ่ายให้กับพนักงานเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นระหว่างการปฏิบัติงานนอกสถานที่หรือระหว่างการเดินทาง โดยค่าเบี้ยเลี้ยงสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าอาหาร ค่าเดินทาง และค่าที่พัก เป็นต้น
ประเภทของค่าเบี้ยเลี้ยง
1. ค่าเบี้ยเลี้ยงในประเทศ (Domestic Per Diem)
ค่าเบี้ยเลี้ยงประเภทนี้จ่ายให้พนักงานที่ต้องเดินทางและปฏิบัติงานภายในประเทศ รวมถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ เช่น ค่าอาหารและค่าที่พัก
2. ค่าเบี้ยเลี้ยงต่างประเทศ (International Per Diem)
สำหรับพนักงานที่ต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ค่าเบี้ยเลี้ยงประเภทนี้จะสูงกว่าค่าเบี้ยเลี้ยงในประเทศ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในต่างประเทศมักจะสูงกว่า
3. ค่าเบี้ยเลี้ยงรายวัน (Daily Per Diem)
จ่ายให้กับพนักงานในรูปแบบรายวันเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
4. ค่าเบี้ยเลี้ยงตามภารกิจ (Task-Based Per Diem)
ค่าเบี้ยเลี้ยงประเภทนี้จะคำนวณตามภารกิจที่พนักงานได้รับมอบหมาย ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามความยากและระยะเวลาของภารกิจ
เกณฑ์การคำนวณค่าเบี้ยเลี้ยง
การคำนวณค่าเบี้ยเลี้ยงขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละองค์กร แต่โดยทั่วไปจะพิจารณาจากปัจจัยหลักๆ ดังนี้:
1. ระยะเวลาในการเดินทาง
ค่าเบี้ยเลี้ยงจะคำนวณตามจำนวนวันที่พนักงานต้องปฏิบัติงานนอกสถานที่
2. สถานที่ปลายทาง
ค่าใช้จ่ายในแต่ละพื้นที่อาจแตกต่างกัน ค่าเบี้ยเลี้ยงจะถูกปรับตามระดับค่าครองชีพของพื้นที่ปลายทาง
3. ประเภทของงาน
ภารกิจที่มีความยากหรือความเสี่ยงสูงอาจได้รับค่าเบี้ยเลี้ยงสูงกว่า
4. นโยบายขององค์กร
องค์กรแต่ละแห่งอาจมีนโยบายการคำนวณค่าเบี้ยเลี้ยงที่แตกต่างกันไป เช่น การจ่ายค่าเบี้ยเลี้ยงตามตำแหน่งหรือระดับของพนักงาน
ตัวอย่างการคำนวณค่าเบี้ยเลี้ยง
1. ค่าเบี้ยเลี้ยงในประเทศ (Domestic Per Diem)
สมมติว่าพนักงานต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดเป็นเวลา 3 วัน องค์กรกำหนดค่าเบี้ยเลี้ยงรายวันไว้ที่ 500 บาท
• คำนวณ: 3 วัน x 500 บาท/วัน = 1,500 บาท
2. ค่าเบี้ยเลี้ยงต่างประเทศ (International Per Diem)
สมมติว่าพนักงานต้องเดินทางไปทำงานที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นเวลา 5 วัน องค์กรกำหนดค่าเบี้ยเลี้ยงรายวันในญี่ปุ่นไว้ที่ 100 USD
• คำนวณ: 5 วัน x 100 USD/วัน = 500 USD
3. ค่าเบี้ยเลี้ยงรายวัน (Daily Per Diem)
สมมติว่าพนักงานได้รับมอบหมายให้เดินทางไปประชุมที่กรุงเทพฯ เป็นเวลา 2 วัน องค์กรกำหนดค่าเบี้ยเลี้ยงรายวันไว้ที่ 800 บาท
• คำนวณ: 2 วัน x 800 บาท/วัน = 1,600 บาท
4. ค่าเบี้ยเลี้ยงตามภารกิจ (Task-Based Per Diem)
สมมติว่าพนักงานได้รับมอบหมายให้ทำภารกิจสำรวจพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่เป็นเวลา 4 วัน องค์กรกำหนดค่าเบี้ยเลี้ยงสำหรับภารกิจนี้ไว้ที่ 700 บาท/วัน
• คำนวณ: 4 วัน x 700 บาท/วัน = 2,800 บาท
การจัดการค่าเบี้ยเลี้ยงเป็นเรื่องที่สำคัญในการบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กร ค่าเบี้ยเลี้ยงไม่เพียงแต่ช่วยชดเชยค่าใช้จ่ายของพนักงาน แต่ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานในการปฏิบัติงานนอกสถานที่
เพื่อให้การจัดการค่าเบี้ยเลี้ยงในองค์กรของคุณเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ เราขอแนะนำ SAW HR ระบบ HRM ที่มีฟังก์ชันการคำนวณและจัดการค่าเบี้ยเลี้ยงที่ทันสมัย ตอบโจทย์ทุกความต้องการขององค์กรในยุคดิจิทัล ให้ SAW HR เป็นผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ในการบริหารงานบุคคลของคุณ เพราะการคำนวณค่าเบี้ยเลี้ยง ถือว่าเป็นเรื่องที่ HR ต้องใช้เอกสารและมีขั้นตอนที่ซับซ้อน HR สามารถหันมาใช้ระบบ HRM ในการคำนวณเบี้ยเลี้ยงให้กับพนักงานได้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่มอบความสะดวกสบายในการคำนวณเบี้ยเลี้ยงและสามารถคำนวณในส่วนของเงินเดือน หรือเบี้ยขยันได้อีกด้วย สามารถทดลองใช้งาน SAW HR ได้ฟรี 30 วัน
ติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของ SAW HR ได้ที่ :
Website– hrinzpy.com
Facebook – facebook.com/SAWHRM
Instagram – instagram.com/sawhr.official
Line – page.line.me/HR.INZPY